- English
- ภาษาไทย
CLC เราเป็นผู้คอยให้ความรู้เกี่ยวกับด้านศาสนา ให้ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ว่าจะเป็นด้านธูรกิจ ด้านสังคม สุขภาพ และการท่องเที่ยว เป็นต้น
เมื่อพูดประกันชีวิตหลายคนคิดไปไกลถึงความตายของคนที่ทำประกันชีวิตไว้ แต่สิ่งที่ประกันชีวิตมอบให้นั่นคือสิ่งที่ลูกหลานจะได้รับในอนาคตเมื่อตัวเองต้องจากไป เพื่อมอบให้ลูกหลานเป็นมรดกนั่นเอง
4 ขั้นตอนวางแผนมรดกให้ลูก
• เพื่อให้ทราบถึงสถานะการเงินของครอบครัวว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้าง มีมูลค่าเท่าไหร่ พร้อมทั้งจัดสรรว่าจะนำไปใช้ในชีวิตบั้นปลายเท่าไหร่และส่วนใดบ้าง เพื่อที่จะนำไปวางแผนมรดกให้ลูกหลานต่อไปในอนาคต
• ศึกษากฎหมายเกี่ยวกับภาษี กฎหมายเกี่ยวกับภาษี แบ่งออกเป็น ภาษีการให้ และ ภาษีมรดก ทำให้เราต้องวางแผนศึกษาในส่วนนี้ไว้ล่วงหน้า ภาษีในการให้ของมรดก กรณีเป็นทายาทโดยตรงจากบุพการี หรือคู่สมรส ถ้ามีทรัพย์สินเกิน 20 ล้านบาท จะต้องมีภาษีการให้ 5 % ต่อปี เป็นรายบุคคล แต่กรณีเป็นบุคคลอื่น ถ้าเกิน 10 ล้านก็ต้องเสียภาษีในส่วนนี้ 5 % ต่อปีด้วย แต่หากต่ำกว่าเกณฑ์นี้ก็ไม่ต้องเสียเพิ่มเติม
• วางแผนมอบมรดก ทยอยส่งมอบทรัพย์สินในแต่ละปีเป็นจำนวนเงินที่เหมาะสมและไม่ทำให้เสียภาษีมากจนเกินไป เช่น มีมรดก 40 ล้านบาทและทายาท 1 คน ทยอยมอบให้ปีละ 20 ล้านบาทจำนวน 2 ปี ก็จะไม่เสียภาษีจากส่วนเกินมูลค่าทรัพย์สินที่จะให้เป็นมรดก
• เลือกการส่งต่อที่เพิ่มประโยชน์ในระยะยาว หากผู้เป็นเจ้าของมรดก มีทรัพย์สินที่ทยอยส่งมอบได้ยากอาจเปลี่ยนรูปแบบผลประโยชน์ระยะยาว โดยการทำประกันชีวิต เพราะประกันชีวิตไม่ต้องเสียภาษี มีบริษัทประกันเป็นคนดูแลจัดการทุกอย่าง เวลาในการส่งมอบมรดกแก่ลูกหลานก็ใช้เวลาไม่นาน และป้องกันเจ้าหนี้ได้ แถมยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
การทำประกันชีวิตถือว่าเป็นการออมอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยให้วันข้างหน้าลูกหลานจะได้ไม่ลำบากเมื่อเราไม่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นควรศึกษาและเริ่มต้นจากการรู้สถานะทางการเงินของตัวเอง วางแผนมรดกเพื่อส่งมอบความมั่นคงไว้ให้กับลูกหลาน เราขอแนะนำประกันชีวิตจากคิงไวประกันชีวิต มอบความคุ้มครองที่ครอบคลุมให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่องผ่านกรมธรรม์ประกันชีวิตที่หลากหลาย ผ่านทางช่องทางดิจิทัลเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าอีกด้วย